ย้อนรอยศาลพระมิ่งขวัญเมืองหลักชัยนาทวี ด้วยพระสุนทรราชมานิตเถร เจ้าอาวาสวัดในวัง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ได้ปรารภว่า เนื่องในมหามงคลสมัยที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ และอำเภอนาทวีไดก่อตั้งอำเภอมาครบ ๘๐ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๘ ซึ่งตามพงศาวดารภาค ๕ สมัยอาณาจักรศรีวิชัย พ.ศ.๑๔๐๐ - ๑๘๒๓ กล่าวไว้ว่า อำเภอนาทวีเป็นพื้นที่ตั้งของเมืองจะนะมาแต่เดิม มีขุนศรีสรรพกรรมเป็นเจ้าผู้ครองเมือง ในยุคนั้นได้มีโจรเจ้าหมัด ชนชาติมาลายู รวบรวมไพร่พลเข้ามารบกวนเมืองตานี เมืองยะหริ่ง เมืองยะรัง เมืองสายบุรี และหัวเมืองตามชายแดนของสยามประเทศซึ่งมีเมืองจะนะรวมอยู่ด้วย กลุ่มโจรดังกล่าวได้บุกตีเมืองจะนะ ฆ่าทหารและประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่ได้กำลังพลของเจ้าเมืองเทพาและเมืองสงขลามาช่วยไว้ได้ทัน ทำให้เมืองจะนะได้รับความเสียหายน้อย เมื่อการศึกสงบลง ขุนศรีสรรพกรรม เจ้าเมืองจะนะจึงได้สั่งให้ขุดหลุมและนำศพผู้เสียชีวิตพลีชีพเพื่อรักษาเมืองในครั้งนั้นฝังไว้บริเวณประตูเมืองและท้ายเมือง แล้วปลูกต้นเลียบไว้เป็นอนุสรณ์ ซึ่งตามประวัติศาสตร์พื้นบ้านโบราณโดยเฉพาะอำเภอนาทวี เชื่อมั่นว่าบริเวณหน้าประตูเมืองจะนะ ที่ฝังศพวีรชนแต่เดิมนั้นคือบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอนาทวีในปัจจุบัน ซึ่งประชาชนให้ความเคารพนับถือว่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น พระสุนทรราชมานิตเถร จึงได้นำเรื่องดังกล่าวปรึกษากับส่วนราชการและประชาชน ซึ่งประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอำเภอนาทวี กำนันและผู้ใหญ่บ้านในอำเภอนาทวี ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ควรที่จะอนุรักษ์โบราณสถานแห่งนี้ไว้ด้วยการสร้างปูยชนียวัตถุอันสำคัญ เพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชา และเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้อนุชนรุ่นหลัง ได้น้อมรำลึกถึงในคุณูปการของบรรพชนที่พลีชีพ เพื่อปกป้องรักษาแผ่นดินไว้ ประจวบกับปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ เป็นปีอันเป็นมิ่งมงคลต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างไพศาล ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา พระองค์ทรงเป็นพระแม่เจ้าของประชาราษฎร์ทั่วแผ่นดิน และทรงมีพระคุณูปการต่อประเทศชาติบ้านเมืองและพสกนิกรเป็นอเนกประการ ทรงตระหนักในพระทัยเสมอว่าประเทศไทยที่สถิตตั้งมั่นสถาพรมาได้ทุกยุคทุกสมัยทุกราชวงศ์ ก็ด้วยอาศัยพระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ และพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกๆ พระองค์ ตลอดถึงดวงวิญญาณของวีรบุรุษ วีรสตรี ของชนชาติไทยที่ได้เสียสละพลีชีพเพื่อปกป้องรักษาประเทศชาติ ศาสนาและราชบัลลังก์ด้วยดีตลอดมา พระสุนทรราชมานิตเถรและผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จึงได้สร้างหอพระขึ้น ๑ หลัง ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๙ เมตร ทรงไทยประยุกต์ เพื่อประดิษฐานพระมิ่งขวัญเมืองหลักชัยนาทวี โดยพระสุนทรราชมานิตเถร วัดในวังบริจาคสร้างโดยเสด็จพระราชกุศล ซึ่งมีลักษณะดังนี้ ฐานรองรับองค์พระมิ่งขวัญเมืองนั้น สร้างด้วยหินทรายขาว กลึงเป็นรูปทรงกลม ช่วงล่างมีความกว้าง ๙ x ๙ นิ้ว ฐานของเสาแกะเป็นกลีบบัวบาน ลำต้นสูง ๑๙๙ ซม.และแกะเป็นลูกฟักปิดทองร่องชาด ๑๙ เส้น คอรับพระมิ่งขวัญเมืองแกะเป้นพระพรหมสี่พักตร์และแกะกลีบบัวรอบเศียร บนยอดสุดประดิษฐานพระพุทธรูปแกะสลัก ๔ องค์ เหนือพระเกตุมาลาแกะเป็นช่องสำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เหตุผลที่สร้างเป็นลักษณะเสาหลักนั้น ถือเอานิมิตหมายอันเป็นมงคลดังนี้ ๑. เสาแกะเป็นรูปพระพรหมสี่พักตร์เป็นฐานรองรับองค์พระมิ่งขวัญฯ นั้น เพราะประเทศไทยมีพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ เป็นหลักชัยของการอยู่ร่วมกัน โดยมีพรหมวิหารธรรม เป็นเครื่องพยุงใจให้คนทุกชั้นทุกวรรณะ อยู่รวมกันอย่างสามัคคีธรรม ๒. พระพุทธปฏิมากร ๔ พระองค์นั้น หมายถึง ในภัทรกัปนี้โลกอยู่อย่างสันติสุขได้เพราะได้รับสัจธรรมที่พระพุทธองค์ทรงประกาศไว้ มีใจความว่า ให้ละกรรมชั่ว ประกอบกรรมดี และทำจิตใจให้ผ่องใส ๓. พระพุทธปฏิมากร ๔ พระองค์ หมายถึง พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้มาแล้วในภัทรกัปนี้ คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า และพระสมณโคดมพุทธเจ้า อันทำให้โลกอยู่อย่างสันติสุขได้เพราะสัจจธรรมที่ประกาศไว้มีใจความว่า ให้ละกรรมชั่ว ประกอบกรรมดี และทำจิตใจให้ผ่องใส ในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานให้ใช้ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ๖๐ พรรษา ประดิษฐานไว้ที่หน้าบันวิหารหอพระมิ่งขวัญเมืองหลักชัยนาทวี ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ตามหนังสือที่ รล ๐๐๐๓/๘๘๕๒ ลงวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๓๖ ลงนามโดยราชเลขาธิการ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดศาลและทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเกตุมาลาพระมิ่งขวัญเมืองหลักชัยนาทวี เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๓๘ ตามหนังสือที่ พว. ๐๐๐๕/๘๕๕ ลงวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๓๘ **************************
ศาลพระมิ่งขวัญเมืองหลักชัยนาทวี ตามประวัติการก่อสร้างหลักเมืองนาทวีนั้นไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าศาลหลักเมืองมีการก่อสร้าง ณ บริเวณสามแยกถนนสายคลองแงะ-โคกโพธิ์กับถนนสายนาทวี-สงขลา (บริเวณศาลพระมิ่งขวัญเมืองหลักชัยนาทวีในปัจจุบัน) ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า ต้นเลียบ หรือต้นปิป ผลิในภาษาบาลี ได้งอกขึ้นปกคลุมหลักเมืองไว้จนมองไม่เห็นหลักเมือง ต่อมาในสมัยที่พระสุนทรราชมานิต เถระ เป็นเจ้าอาวาสวัดในวัง ได้มีการจัดสร้างศาลหลักเมืองขึ้นใหม่ใกล้กับหลักเมืองเก่าที่ถูกต้นเลียบขึ้นปกคลุมและให้ชื่อว่า